การแต่งตั้งแมตต์ บัสบี ของ ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด_(ค.ศ._1945–1969)

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1945 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่กี่เดือน แมตต์ บัสบีได้เข้าพบกับประธานสโมสร เจมส์ กิ๊บสันในเมืองแมนเชสเตอร์ โดยเริ่มต้นบัสบีได้รับข้อเสนอสัญญาเพียง 3 ปี แต่เจ้าตัวขอเพิ่มเป็น 5 ปี เนื่องจากว่าในเวลาที่เข้ารับตำแหน่ง บัสบีมีอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น[13] หลังจากเพิ่งยุติการค้าแข้งที่ผ่านมากับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี และ ลิเวอร์พูล รวมถึงในลีกสก็อตติช การแต่งตั้งบัสบีในครั้งนี้ อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เขาสามารถเลือกสตาฟฟ์ด้วยตัวเอง และการสามารถควบคุมทุกอย่างโดยต้องไม่ถูกแทรกแซง อาทิ การเลือกนักเตะลงแข่งขัน หรือความรับผิดชอบต่าง ๆ ในส่วนของผู้อำนวยการหรือประธาน บัสบีเริ่มงานในปี ค.ศ.1945 โดยสิ่งแรกที่ทำ คือ การแต่งตั้งจิมมี เมอร์ฟี เป็นโค้ชทีมสำรอง[14]

ฟุตบอลลีกกลับมาแข่งขันในปี ค.ศ.1946-47 และยูไนเต็ดจบฤดูกาลในอันดับ 2 ด้วยผู้เล่น แจค รอว์ลี่ ชาร์ลี มิทเทน และ จอห์น แอสตัน ในช่วงนี้กัปตันทีมคือ จอห์นนี่ คาเรย์ ผู้เล่นตำแหน่งกองหลังฝั่งขวาชาวไอริช โดยเขาเคยเล่นมาทุกตำแหน่งให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยกเว้นตำแหน่งปีกขวา

พวกเขาจบอันดับนี้อีกครั้งในปีถัดไป พร้อมกับความผิดหวัง แต่ก็กลับมาได้โดยการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปีค.ศ. 1948 หลังจากเอาชนะสโมสรแบล็คพูล ไปด้วยสกอร์ 4–2 ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลแรกหลังจากห่างหายไปกว่า 37 ปี และเป็นก้าวเริ่มของการกอบโกยแชมป์ของยูไนเต็ด สนามโอล์ด แทรฟฟอร์ต ถูกระเบิดได้รับความเสียหายในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่สามารถใช้การแข่งขันได้ในช่วงปี ค.ศ.1945 ถึง 1949 โดยได้ย้ายไปใช้สนามเมนโร้ด ของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี เป็นการชั่วคราว[15]

หลังจากรอคอยมานานถึง 41 ปี ยูไนเต็ดก็สามารถกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้อีกครั้งในปี ค.ศ.1952 ภายใต้การนำทีมของจอห์นนี คาเรย์ โดยในนัดสุดท้าย พวกเขาชนะอาร์เซนอลทีมที่เบียดแย่งแชมป์ ได้ 6–1 จบฤดูกาลแต้มนำหน้าอาร์เซนอล และ ทอตนัมฮอตสเปอร์ และเข้าสู่การผลัดใบของนักเตะภายในทีม บัสบี้ได้เซ็นสัญญานักเตะตำแหน่งปีกคนสำคัญเข้าทีม คือ จอห์นนี่ เบอร์รี จากสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในราคา 25,000 ปอนด์ และในปี ค.ศ.1949 ได้เซ็นสัญญาคว้าตัวผู้รักษาประตูดาวรุ่ง เรย์ วู้ด จากสโมสร ดาร์ลิงตัน รวมทั้งผู้เล่นดาวรุ่งตำแหน่งปีกซ้าย โรเจอร์ เบิร์นและในอีกหลายตำแหน่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง

ใกล้เคียง

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสนาพุทธ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์สหรัฐ ประวัติศาสตร์สเปน ประวัติศาสตร์เยอรมนี ประวัติการบินไทย

แหล่งที่มา

WikiPedia: ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด_(ค.ศ._1945–1969) http://www.fifa.com/classicfootball/clubs/matchrep... http://www.fifa.com/classicfootball/players/player... http://www.manutd.com/en/Club/History-By-Decade/19... http://www.manutd.com/en/Club/History-By-Decade/19... http://www.manutd.com/en/Club/History-By-Decade/19... http://www.manutd.com/en/News-And-Features/Feature... http://www.manutd.com/en/Players-And-Staff/Manager... http://www.rsssf.com/miscellaneous/europa-poy.html http://news.bbc.co.uk/onthisday/hi/dates/stories/f... http://news.bbc.co.uk/onthisday/hi/dates/stories/j...